17677172326767.jpg

วันนี้ 20 ก.พ. 2566 เวลา 13.30 น. ร้อยตรี สรมงคล มงคละสิริ ผอ.ตท.สป. เป็นผู้เเทนกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการระดับชาติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการ ภายหลังประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกที่ประชุมกรุงเฮกว่าด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ แผนกคดีบุคคล (Hague Conference on Private International Law: HCCH) ครั้งที่ 1/2566 ณ ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม 10-01 อาคารที่ทำการกระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ มีว่าที่ร้อยตรี ศราวุธ จันทวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการทะเบียน ปค. นางวจิราพร อมาตยกุล ผู้อำนวยการกองวิชาการและแผนงาน ปค. เจ้าหน้าที่กองวิชาการเเละแผนงาน ปค. เเละกองการต่างประเทศ สป. เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย

ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการดำเนินการของคณะอนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการระดับชาติฯ การดำเนินกิจกรรมเพื่อเผยเเพร่ความรู้ด้านกฎหมายระหว่างประเทศเเผนกคดีบุคคล เเละการชำระเงินอุดหนุนรายปี ในฐานะสมาชิกที่ประชุมกรุงเฮกฯ เเละที่ประชุมมีมติเห็นชอบเเนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับการปรับปรุงกฎหมายภายในให้สอดคล้องกับอนุสัญญา HCCH เเละเห็นชอบเเนวทางการเข้าร่วมการประชุมสภาที่ปรึกษาด้านกิจการเเละนโยบาย (CGAP) ของ HCCH

นอกจากนี้ ผอ.ตท.สป. ในฐานะผู้เเทน มท. ได้เสนอให้ ยธ เเต่งตั้งผู้เเทนกรมการปกครองเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการระดับชาติฯ พร้อมทั้งเรียนต่อที่ประชุมว่า ส่วนราชการเเละหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัด มท. มีความพร้อมที่จะดำเนินการร่วมกับทุกฝ่ายในการขับเคลื่องการอนุวัติการตามอนุสัญญาที่เกี่ยวข้อง สำหรับเอกสารการรับรองภายใต้ Apostille Convention จะบังคับใช้กับกลุ่มเอกสารนำร่องที่มีความพร้อมก่อน คือ เอกสารของ ปค. จำนวน 30 รายการ เช่น เอกสารเกี่ยวกับสูติบัตร มรณบัตร ทะเบียนสมรส ทะเบียนหย่า เป็นต้น ซึ่ง ผอ.สน.ทบ. ปค. ชี้เเจงว่า เเม้ว่าจะมีระบบการเเปล 2 ภาษา (ไทย-อังกฤษ) เเต่พบข้อจำกัดของการดำเนินงาน คือ เมื่อประชาชนได้รับเอกสารเเล้วจะต้องเดินทางไปยังกรมการกงสุล เพื่อรับรองการเเปลภาษาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มภาระเเก่ประชาชน ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวจะมีการนำไปประชุมหารือ/ปรับปรุงการดำเนินงานให้มีความเหมาะสมในคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องต่อไป

17677173080365.jpg