S__317898769.jpg

วันนี้ (จันทร์ 25 กันยายน 2566) เวลา 08.30 - 16.30 น. ผอ.ตท.สป. ได้มอบหมายให้ น.ส.ภณิชชา ลิ่มสกุล นวท.ชก. และ น.ส.วิมลวรรณ เจียงวิลาวัณย์ นวท.ปก. กพบ.ตท.สป. เข้าร่วมการลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ของนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รอง นรม. และ รมว.กต. เพื่อสนับสนุนข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ณ จ.สระแก้ว มีรายละเอียด ดังนี้

1. เวลา 08.30 - 11.30 น. จ.สระแก้ว นำโดย ผวจ.สระแก้ว นายปริญญาโพธิสัตย์ ได้บรรยายสรุปเรื่องสถานการณ์การค้าชายแดน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง และประเด็นที่ภาคเอกชนขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาล ดังนี้
1) การจัดตั้งสถานกงสุลไทย ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยอาจจัดตั้งที่กรุงปอยเปต จ.บันทายมีชัย หรือ จ.เสียมราฐ เพื่อให้บริการประชาชน ดูแล คุ้มครองผลประโยชน์ของคนไทย
2) การจัดตั้งสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวที่ อ.อรัญประเทศ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับคนไทยทั้งในพื้นที่ จ.สระแก้ว และจังหวัดอื่น ๆ
3) การแก้ไขปัญหาและข้อจำกัดของการพัฒนาช่องทางเข้า-ออกระหว่างประเทศในแต่ละช่องทาง ดังนี้
- จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ให้มีการผลักดันการขนส่งทั้งคนและสินค้าทางรถไฟเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมขนส่งทางรถไฟของทั้งสองประเทศ และเจรจาให้มีการขนส่งสินค้าโดยรถบรรทุกขนาดเล็ก (รถกระบะ) แทนการใช้รถเข็นที่ปัจจุบันถูกยกเลิกไป
- จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด อยู่ระหว่างการขอต่อ การอนุญาตให้ใช้พื้นที่จากกรมป่าไม้
- จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา อ.ตาพระยา ตั้งอยู่บนพื้นที่อ้างสิทธิ์ของทั้งสองประเทศจึงไม่สามารถพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหรืออาคารสิ่งก่อสร้างที่จำเป็นได้ นอกจากนี้ถนนที่ใช้ในการสัญจรมีขนาดเล็กและชำรุดทรุดโทรม
- จุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ อ.อรัญประเทศ ถนนที่ใช้สัญจรสู่ด่านและสะพานข้ามคลองน้ำใสมีขนาดเล็ก และพื้นที่ที่ตั้งจุดผ่อนปรนการค้าอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินและป่าไม้
4) การผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์อาคารด่านศุลกากรป่าไร่ อ.อรัญประเทศ ซึ่งกรมศุลกากรได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้ว แต่ปัจจุบันยังไม่มีการใช้ประโยชน์
5) เห็นควรผลักดันเรื่องการเคลื่อนย้ายแรงงานทั้งสองฝ่าย โดยให้แรงงานภาคเกษตรที่ถือบัตรผ่านแดน (Border Pass) ให้สามารถทำงานนอกเขตจังหวัดได้ และ แก้ไขเงื่อนไขหรือกระบวนการเกี่ยวข้องกับการทำงานแบบไป-กลับหรือการทำงานตามฤดูกาล ที่ใช้บัตรผ่านแดน จะได้รับอนุญาต ให้พำนักอยู่ในพื้นที่เป็นเวลา 30 วันต่อครั้งเท่านั้น แม้ว่ากฎหมายแรงงานจะอนุญาตให้พำนักอยู่ในราชอาณาจักรจาก 90 วันก็ตาม

โดยมีข้อเสนอของภาคเอกชนเพิ่มเติม ดังนี้
1) การส่งเสริมสนับสนุนเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าชายแดน โดยการแก้ไขปัญหาผังเมืองและการถือครองที่ดินในพื้นที่ จ.สระแก้ว การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษและแก้ไขปัญหาการเช่าที่กับการรถไฟที่มีราคาค่อนข้างสูง
2) การส่งเสริมสนับสนุนเพื่อการท่องเที่ยวจังหวัดชายแดน โดยมีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวแบบเบ็ดเสร็จ การเพิ่มตู้โดยสารรถไฟปรับอากาศ การใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราว การส่งเสริมตลาดโรงเกลือให้เป็น soft power และการผลักดันเขาอีด่างให้เป็นความทรงจำของโลก ทั้งนี้ ในส่วนของการใช้ Temporary Border Pass ออท. ณ กรุงพนมเปญ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ได้นำประเด็นนี้เสนอให้กระทรวงมหาดไทย ราชอาณาจักรกัมพูชาพิจารณาแล้ว
3) การแลกเปลี่ยนสิทธิ์การจราจรข้ามพรมแดน
4) การเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมคณะรัฐบาลในการเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาในวันที่ 28 กันยายน โดย รอง รมว. ได้เชิญ ผวจ.สระแก้ว เข้าร่วมการเยือนในครั้งนี้ด้วย

2. 11.30 - 12.30 น. สำรวจพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก และสถานีรถไฟด่านพรมแดนบ้านคลองลึก และพบปะผู้ประกอบการเอกชน ณ ตลาดโรงเกลือ

3. 13.30 - 14.45 น. สำรวจพื้นที่สะพานมิตรภาพไทย - กัมพูชา (บ้านหนองเอี่ยน - สตึงบท) โดยศุลกากรสรรหา ผู้รับเหมารายใหม่อีกสำหรับก่อสร้างอาคาร C.I.Q. ได้แล้วซึ่งจะเริ่มก่อสร้างในเดือนตุลาคม 2566 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2568 ในขณะที่ฝั่งกัมพูชามันมีความคืบหน้าในการก่อสร้างอาคาร C.I.Q. แล้ว 91.26เปอร์เซนต์

4. 15.15 - 16.30 น. รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการเก็บกู้ทุนระเบิดที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ (บ้านป่าไร่) อ.อรัญประเทศ และสำรวจพื้นที่ด่านศุลกากรบ้านป่าไร่

S__317898767.jpg

S__317898770.jpg

S__317898777.jpg

S__317898772.jpg

S__317898773.jpg

S__317898775.jpg

S__317898771.jpg