269924786_1902153996640476_2581145850786791542_n.jpg
 
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้การต้อนรับท่านหาน จื้อเฉียง 韩志强 เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย พร้อมหารือความร่วมมือด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งสองประเทศ
 
วันนี้ (24 ธ.ค. 64) เวลา 10.00 น. ที่ห้องรับรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้การต้อนรับ ท่านหาน จื้อเฉียง (韩志强) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย ในโอกาสได้รับตำแหน่งใหม่และหารือความร่วมมือด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร้อยตรี สรมงคล มงคละสิริ ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ
 
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีในโอกาสที่ท่านหาน จื้อเฉียง (韩志强) ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และกล่าวว่า ไทย-จีนเป็นมิตรประเทศกันมาอย่างยาวนาน แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ทำให้การเดินทางไปมาหาสู่กันระหว่างประชาชนสองประเทศลดน้อยลง และเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น เราทั้งสองประเทศจะได้ฟื้นฟูการเดินทางระหว่างกันดังเดิม และขอขอบคุณทางรัฐบาลจีนที่ให้ความช่วยเหลือทางด้านวัคซีนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้กับประชาชนชาวไทย ซึ่งแม้ว่า ในขณะนี้ไทยและจีนต่างยังคงเผชิญภาวะความยากลำบากในสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 เราจะร่วมต่อสู้ไปด้วยกัน ทั้งด้านการเสริมกำลังทางด้านการสาธารณสุขและด้านเศรษฐกิจ และขอให้กำลังใจแก่รัฐบาลและประชาชนชาวจีนผ่านท่านเอกอัครราชทูต หาน จื้อเฉียง
ด้าน ท่านหาน จื้อเฉียง (韩志强) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย กล่าวว่า ตนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย โดยได้รับพระมหากรุณาเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อถวายอักษรสาส์นตราตั้ง เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมา จึงใช้โอกาสนี้ในการเข้าเยี่ยมคารวะท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมกล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่ได้เข้ารับหน้าที่ ได้สัมผัสกับมิตรภาพที่ดีระหว่างสองประเทศ โดยในช่วงแรกของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รัฐบาลจีนได้บริจาควัคซีนให้รัฐบาลไทย จำนวน 2.5 ล้านโดส เมื่อปี 2563 และแม้ว่า ขณะที่ประเทศจีนต้องเผชิญสถานการณ์โควิด-19 อย่างรุนแรง ก็ยังได้รับกำลังใจและความช่วยเหลือจากรัฐบาลและประชาชนไทยอย่างต่อเนื่อง สร้างความประทับใจให้กับรัฐบาลและประชาชนชาวจีนเป็นอย่างยิ่ง
 
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยมีภารกิจหลักในการดูแลความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ ตลอดจนดูแลคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน จึงได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญจากรัฐบาลในการดำเนินการเพื่อขจัดความยากจน พร้อมกล่าวชื่นชมการดำเนินงานด้านการประกาศความสำเร็จในการขัดความยากจนของรัฐบาลจีนใน “รูปแบบจีน (China Model)” ที่ทำให้ประชาชนชาวจีนกว่า 99 ล้านคน สามารถหลุดพ้นความยากจน ซึ่งประเทศไทยจะได้ศึกษาเรียนรู้แนวทางของประเทศจีน โดยจะขอรับการสนับสนุนองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อถ่ายทอดความรู้และบทเรียนแห่งความสำเร็จให้กับประเทศไทยในช่วงที่ยังไม่สามารถเดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศจีนได้ ผ่านระบบการประชุมทางไกล เพื่อประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับบริบทของไทย นอกจากนี้ ยังได้ร่วมหารือถึงแนวทางการพัฒนาความร่วมมือกับประเทศจีนในด้านต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมความร่วมมือระดับประชาชนกับประชาชน ความร่วมมือระดับรัฐบาลท้องถิ่นจีนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของไทย ตลอดจนความร่วมมือและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านการป้องกันและการจัดการสาธารณภัย
269599014_1902154096640466_5168266580680572725_n.jpg
 พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้ประเทศไทย และประเทศจีน ยังคงเผชิญหน้าและดำเนินการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 อย่างเต็มกำลังความสามารถ ทั้งนี้ ภายหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และดีขึ้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนในด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ ซึ่งชาวจีนเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ของไทย และคนไทยก็นิยมเดินทางไปเที่ยวที่ประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิจารณาการกลับไปทำการบินเชิงพาณิชย์ในจีนของธุรกิจสายการบินประเทศไทย เพื่อพยุงธุรกิจท่องเที่ยวให้กลับมาสร้างรายได้ให้กับประชาชนของทั้งสองประเทศอีกด้วย
 
ด้าน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสที่ท่านหาน จื้อเฉียง (韩志强) เข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย พร้อมกล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมา เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงในโครงการรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพ-นครราชสีมา โดยเป็นการดำเนินการร่วมกันของประเทศไทยและประเทศจีน อีกทั้งจังหวัดนครราชสีมามีประชาชนชาวจีนพักอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก หากรัฐบาลจีนจะมีการพิจารณาจัดตั้งสถานกงสุลจีนที่จังหวัดนครราชสีมา จะส่งผลทำให้เกิดการกระชับความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
 
สุดท้าย ท่านหาน จื้อเฉียง (韩志强) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย เน้นย้ำว่า ยินดีในการให้ความร่วมมือกับประเทศไทยในเรื่องที่ได้หารือร่วมกันดังกล่าวอย่างเต็มกำลังความสามารถ และได้มอบของที่ระลึกแด่ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย
 
อ้างอิงจาก กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ 228/2564
วันที่ 24 ธ.ค. 2564
 
 269824544_1902154069973802_8404006952499648022_n.jpg
269719049_1902154179973791_2142253036728923977_n.jpg
269644591_1902154123307130_7565592546036962490_n.jpg