วันนี้ (9 มิ.ย. 2566) เวลา 09.30 - 12.00 น. ณ ห้องประชุมแม่น้ำปิง ชั้น 4 อาคารจุฑามาศ สทนช.

ปมท. มอบหมายให้ นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง รักษาการในตำเเหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคง สป. เป็นผู้เเทนเข้าร่วมการประชุมคณะอนุกรรมการวิชาการ ภายใต้คณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ครั้งที่ 2/2566 โดยมี เลขาธิการ สทนช. (ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล) เป็นประธาน ทั้งนี้ มี น.ส.วิมลวรรณ เจียงวิลาวัณย์ นวท.ปก. ตท.สป. เข้าร่วมการประชุมฯ เเละสนับสนุนข้อมูลที่เกี่ยวข้องเเก่ผู้เเทน ปมท. ด้วย

สรุปประเด็นสำคัญ ดังนี้
- ที่ประชุมรับรองรายงานการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2566 ซึ่งที่ประชุมเห็นว่ารายงานการศึกษาเพิ่มเติมที่ทาง MRCS จัดทำมาข้อมูลยังไม่ครบถ้วน และยืนยันให้มีการศึกษาผลกระทบข้ามพรมแดนเพิ่มเติม
- สทนช. ชี้แจงในที่ประชุมว่าได้แจ้ง MRCS เรื่อง ผลการพิจารณารายงานการศึกษาเพิ่มเติม ดังนี้
1) ค่าระดับน้ำทะเลปานกลางของไทย ต้องอิงจากเกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ์ (ทาง สปป.ลาว อิงจากเวียดนาม)
2) การปรับเทียบแบบจำลองไม่สะท้อนภาพปัจจุบัน
3) ร้อยละ 90 ของพื้นท้องน้ำในพื้นที่ศึกษา 40 กม. มีลักษณะเป็นทราย
4) ควรสำรวจภาพตัดขวางทุก 250 ม. โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นโค้งหักศอก
5) ข้อมูลต้องเพียงพอให้กับประเทศสมาชิกประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้น
โดยได้แจ้งรายการข้อมูลที่ต้องการให้มีการศึกษาเพิ่มเติม ได้แก่
- ด้านอุทกวิทยา ชลศาสตร์ การเคลื่อนย้ายตะกอนและธรณีสัณฐาน
- ด้านสิ่งแวดล้อม คุณภาพน้ำ ระบบนิเวศ ประมง และทางผ่านปลา
- ด้านเศรษฐกิจและสังคม
- MRCS ได้จัดส่งรายงานการศึกษาเพิ่มเติม ฉบับปรับปรุง เพื่อพิจารณาอีกครั้งในการประชุมฯ ครั้งนี้ พบว่า ยังได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน ด้านระบบนิเวศ ประมง และทางผ่านปลา
- ที่ประชุมมีความเห็นตรงกันว่าต้องปรับค่าระดับน้ำทะเลปานกลางของฝั่งไทยและ สปป.ลาว ให้เท่ากัน/เป็นมาตรฐานเดียวกันก่อน เพื่อให้สามารถประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสานะคามได้ รวมถึงขอข้อมูลรายงานการศึกษาให้ครบถ้วนอีกครั้งหนึ่ง
- ประธาน เน้นย้ำถึงวัตถุประสงค์ของการประชุมฯ เรื่องโครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสานะคาม เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ และความพึงพอใจของประชาชนในพื้นที่ หากเกิดผลกระทบขึ้น ผู้พัฒนาโครงการ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ การประชุมฯ จึงจำเป็นต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน