นางสาวชัชญ์ชัญญา วรัญช์รัชญ์ชญา นวท.ปก.ตท.สป. และนางสาวสิรภัทร จงวัฒนาบุญ นวท.ปก.ตท.สป. ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แทน ตท.สป. เข้าร่วมคณะตรวจติดตามงานหน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งประชุมมอบนโยบายสำคัญ รับฟังปัญหาจากผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่อำเภอประโคนชัย และตรวจจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ นำโดยนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มท. ระหว่างวันที่ 30 มิ.ย. - 1 ก.ค. 2567 สรุปสาระสำคัญการตรวจพื้นที่ ในส่วนภารกิจที่เกี่ยวข้องกับ ตท.สป. ได้ ดังนี้

⁃ จ.บุรีรัมย์ มีความประสงค์จะยกระดับจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู เป็นจุดผ่านแดนถาวร เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจภายในจังหวัด โดย รมช.มท. ได้เข้าร่วมการประชุมเพื่อรับฟังปัญหาและอุปสรรคในการยกระดับจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู เร่งรัดการยกระดับดังกล่าว ซึ่งปัจจุบัน มท. ได้อนุมัติงบประมาณให้ จ.บุรีรัมย์ เพื่อจัดทำ EIA เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ในการเห็นชอบการขอใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จากกรมป่าไม้

⁃ การเดินทางข้ามแดนผ่านจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ยังไม่เป็นไปตามความตกลงความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการข้ามแดนระหว่างประเทศทั้งสอง ลงวันที่ 11 ก.ค. 2558 ซึ่งกำหนดให้พลเมืองของภาคีคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องมีเอกสารเดินทางที่ถูกต้อง โดยรวมถึงบัตรผ่านแดน ต้องเป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับของภาคีคู่สัญญานั้น เพื่อการเข้ามาในและออกไปจากดินแดนของภาคีคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผ่านจุดผ่านแดนถาวรที่ระบุไว้ตามภาคผนวก ”เอ“ และผ่านจุดผ่านแดนในพื้นที่ชายแดนตามที่ระบุไว้ในภาคผนวก “บี” (หมายรวมถึง จุ๊บโกกี จ.อุดรเมียนเจย ราชอาณาจักรกัมพูชา ซึ่งตรงกับ ช่องสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ราชอาณาจักรไทย) พลเมืองนี้สามารถเดินทางไปในดินแดนของภาคีคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง (หมายรวมถึง จ.อุดรเมียนเจย ราชอาณาจักรกัมพูชา และ จ.บุรีรัมย์ ราชอาณาจักรไทย) ตามระยะเวลาที่อนุญาตไว้ในกฎหมายระเบียบ และข้อบังคับ และได้รับอนุญาตให้เดินทางออกไป ณ จุดผ่านแดนถาวร หรือจุดผ่านแดนในพื้นที่ชายแดนที่เดินทางเข้ามาเท่านั้น

⁃ ปัจจุบัน การเดินทางข้ามแดนผ่านจุดผ่อนปรนการค้าช่องสายตะกู ยังคงใช้การแลกบัตรประชาชนเพื่อข้ามแดน โดยจำกัดพื้นที่เฉพาะภายใน อ.บันเตียอัมปึล และ อ.บ้านกรวด โดยในการประชุมฯ ผู้แทน ตท.สป. ได้ชี้แจงการเดินทางข้ามแดนอย่างถูกต้องตามบันทึกความตกลงฯ ซึ่งพลเมืองในพื้นที่ชายแดนต้องใช้บัตรผ่านแดน และสามารถเดินทางได้ทั่วพื้นที่ จ.อุดรเมียนเจย และ จ.บุรีรัมย์ และภายหลังการประชุมฯ ผู้แทน ตท.สป. ได้ร่วมตรวจพื้นที่บริเวณจุดผ่านแดนช่องสายตะกู รวมทั้งอาคารมินิมาร์ ที่ปัจจุบันเอกชนฝ่ายกัมพูชายกให้เป็นอาคารประสานงานระหว่างทั้งสองประเทศ